การผสมน้ำมัน เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ
การผสมน้ำมัน เครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ ปกติในบ้านเรานิยมใช้มีเครื่องยนต์ต้นกำลังแบบใช้เชื้อเพลิงเป็นน้ำมันเบนซินมีสองชนิดครับคือแบบสองจังหวะและแบบสี่จังหวะ แบบสองจังหวะการใช้งานเราต้องผสมน้ำมันหล่อลื่น auto lubeหรือ2Tกับน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าด้วยกันโดยอัตราส่วนปกติประมาณ 1:20 -1:25
หมายความว่าเราใช้น้ำมัน2T 1ส่วนผสมน้ำมันเบนซิน20-25ส่วน การผสมน้ำมัน2Tที่น้อยเกินไปจะทำให้เกิดการสึกหรอที่แหวนลูกสูบมาก เครื่องสึกหรอเร็ว อายุการใช้งานสั้นหรือในบางกรณีลูกสูบจะติด แหวนลูกสูบจะติดคาในร่องแหวน ข้อเหวี่ยงสึกหรอมาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นถึงขั้นต้องยกเครื่องกันเลย
กลับกันในทางตรงข้ามหากเราผสมน้ำมัน2Tมากเกินไป เครื่องจะสตาร์ทติดยากควันขาวจะออกที่ไอเสียมาก เร่งเครื่องไม่ขึ้น หัวเทียนจะมีเขม่าจับมากจนไม่เกิดประกายไฟหรือที่เรียกกันว่าหัวเทียนบอด คาร์บูเรเตอร์จะตัดและสำลัก เครื่องสะดุด ต้องถอดล้างเครื่อง ล้างคาร์บูเรเตอร์เปลี่ยนหัวเทียนกัน แนวทางป้องกันปัญหานี้คือเราแค่ผสมน้ำมัน2Tให้ถูกส่วนแค่นั้นเองครับ
โดยปกติผมใช้1:25เป็นหลัก ที่กระบอกผสมน้ำมันที่แถมมากับเครื่องตัดหญ้าจะมีขีดบอกไว้ เราผสมตามขีดนั้นเลยครับ เติมน้ำมันเบนซินลงไปจนระดับขึ้นมาถึงขีดล่าง(ช่อง1:25)แล้วเติม2Tจนระดับขึ้นมาถึงขีดบน
เขย่าให้เข้ากันแล้วเติมใส่ถังน้ำมันเครื่องตัดหญ้าได้เลย เมื่อเราตัดหญ้าเสร็จหลังการใช้งานประจำวัน น้ำมันผสมที่เหลือในเครื่องตัดหญ้าควรถ่ายออกจากเครื่องครับเพราะน้ำมันที่ค้างในเครื่องที่เราผสมไว้จะแยกตัวกัน น้ำมัน2Tที่หนักกว่าจะตกตะกอนลงล่างในคาร์บูเรเตอร์ก็ตกตะกอนเช่นกัน
หากเรานำมาใช้ต่อมันจะเกิดอาการข้นเหนียวและควันจะขาวมากเพราะน้ำมันไม่ได้ผสมกันจนทั่ว และเครื่องจะติดยาก อาจจะไม่ติดเลยแนวทางคือหลังใช้งานให้ถ่ายน้ำมันถ่ายออกเก็บไว้ ถ่ายน๊อตที่ก้นคาร์บูเรเตอร์เพื่อเอาน้ำมันที่เหลือออก เมื่อจะใช้งานโดยน้ำมันเก่าที่เหลือเราควรเขย่าให้เข้ากันเสียก่อน ในบางครั้ง ฝาปิดภาชนะบรรจุน้ำมันที่เก็บไว้ ปิดไม่สนิท น้ำมันเบนซินที่เบากว่าจะระเหิดตัวได้ ทำให้ความเข้มข้นหรืออัตราส่วนผสมผิดเพี้ยนไป มันจะเข้มข้นมากกว่าเดิม หลายท่านนิยมตัดหญ้าจนน้ำมันหมดถังไปเลย ก็ใช้ได้เช่นกันครับ
“การผสมน้ำมันเครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ”PUEANKASET
- การเลือกน้ำมันควรเลือกใช้น้ำมันเบนซิล เพราะน้ำมันเบนซิลจะถนอมการใช้ของเครื่องยนต์ได้ดีกว่าน้ำมันชนิด แก๊สโซฮอล์ (ซึ่งแก๊สโซฮอล์มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทำให้กัดกร่อนอะไหล่ของเครื่องยนต์ )
- การผสมน้ำมัน เบนซิล กับ 2T ( ออโต้ลูป ) 25 : 1 หรือถ้าแบบเข้าใจกันง่ายๆ คือ น้ำมันเบนซิล 1 ลิตร ใช้ 2T ผสม 2 ฝาของถังน้ำมันตัวเครื่อง เขย่าให้เข้ากันก่อนจึงเทลงถังน้ำมันเครื่องตัดหญ้า (ห้ามลืมผสมน้ำมันเด็ดขาด หากลืมผสมจะทำให้เสื้อสูบและลูกสูบติด หรือผสมน้อยกว่าปริมาณที่กำหนดเป็นเวลานานจะทำให้เครื่องหลวมได้ )
- การดูแลรักษาหลังการใช้งาน
- นำจารบีมาอัดหัวเกียร์(ส่วนจับใบมีด) ประมาณ 2 อาทิตย์ ต่อครั้งหากใช้บ่อยควรอัดจารบีเพิ่มตามลำดับ เพื่อช่วยถนอมหัวเกียร์ไม่ให้เฟืองชำรุดง่าย
- เมื่อต้องเลิกใช้งานเป็นเวลานานๆ ควรเทน้ำมันที่ตัวถังน้ำมันทิ้ง แล้วทำการสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ให้เครื่องดับไปเอง เพื่อช่วยให้เครื่องไม่มีน้ำมันเสียค้างที่คาร์บูเรเตอร์ ช่วยรักษาคาร์บูเรเตอร์ให่ไม่เสื่อสภาพไว
- เก็บเครื่องตัดหญ้า โดยการห่อถุงไว้ที่หัวเครื่องตัดหญ้า เพื่อไม่ให้แมลงเข้าไปทำรังที่ท่อไอเสียทำให้เครื่องเสียหาย
นอกจากการดูแลเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว เราควรทำความสะอาดตัวเครื่องบ้างเป็นครั้งคราว ยิ่งในกรณีที่ตัดหญ้าหนามากๆ อาจมาเศษหญ้าหรือกิ่งไม้เข้าไปขัดที่ตัวเครื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณชุดสตาร์ทที่มีใบพัดระบายความร้อน
หากมีกิ่งไม้ เศษหิน หลุดรอดเข้าไป มันอาจทำอันตรายต่อเครื่องด้วย อาจเข้าไปขัดกับใบพัดฟลายวีลทำให้ซี่ใบพัดฟลายวีลแตก เครื่องสั่นหรือหนักหน่อยก็ชุดฟลายวีลที่มีแม่เหล็กแตกกลางทำให้เครื่องไม่ติด อันนี้ต้องระวัง การตรวจเชคฝาถังน้ำมัน ถ้าพบว่าชำรุดก็ควรเปลี่ยนเลยครับเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้
บางครั้งเราเติมน้ำมันลงไปแล้วใช้งาน ฝาถังน้ำมันรั่ว มันอาจไหลมาท่วมเครื่องแล้วเครื่องดับ หรือแรงดันน้ำมันในฝาถังหายไปทำให้น้ำมันไม่ขึ้นในเครื่องที่ใช้คาร์บูเรเตอร์แบบไดอะแฟรมเครื่องเร่งไม่ออกก็เคยเจอ แต่ที่น่ากลัวคือน้ำมันไหลไปโดนท่อไอเสียแล้วเกิดติดไฟ ลองนึกดูขณะที่ตัดหญ้าแล้วไฟลุกท่วมเครื่อง อันตรายมากครับ เคยเห็นมาแล้ว
สิ่งที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
1. สายไฟและคอยล์ไฟ
ควรตรวจเชคให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ คือในหลายครั้งที่เราเก็บเครื่องตัดหญ้าไว้ในโรงนา ยุ้งข้าว หรือห้องเก็บของแล้วหนูหรือแมลงสาบมากัดแทะสายไฟ ถ้าขาดชำรุดควรต้องเปลี่ยน
2. ก้านหรือหางของเครื่องตัดหญ้าแบบสะพาย
มีหน้าที่ส่งกำลังไปยังใบมีดตัดหญ้าที่อยู่ปลายก้านและความยาวของหางหรือก้านออกแบบมาเพื่อระยะในการใช้งาน ด้านในก้านจะมีเพลาส่งกำลังประคองแกนเพลาด้วยบูชหลายตัว ก้านด้านที่ติดกับเครื่องยนต์จะมีถ้วยครัชเพื่อรับการส่งกำลังจากครัชของเครื่อง เมื่อเราใช้งานเสร็จแล้วหากไม่ได้บำรุงรักษาก่อนเก็บ หากจะนำมาใช้งานใหม่ควรตรวจสอบและบำรุงรักษาบ้างครับ เริ่มจากถอดใบมีดตัดหญ้าออก ถอดหัวเกียร์ของปลายก้านออก แล้วจะเห็นแกนเพลาอยู่ด้านใน ถอดแกนเพลาออกนำมาลูบจารบีบ้างเพื่อช่วยหล่อลื่นกับบูช
ในหลายกรณีที่การใช้งานตัดหญ้าแล้วก้านสั่นกระพือ ส่วนนึงมาจากแกนเพลาไม่มีสารหล่อลื่นหรือสารหล่อลื่นแห้งทำให้เกิดการเสียดสีอย่างรุนแรงระหว่างแกนเพลากับบูชทำให้บูชสึกหรอ เพลาจะสั่นสวิงอยู่ภายในเวลาตัดเครื่องจะสั่นมากจนตัดไม่ได้แต่หากเราทาจารบีที่ก้านจะช่วยลดการเสียดสีและยืดอายุการใช้งาน เครื่องจะตัดได้นิ่งกว่า หลังจากทาจารบีแล้วใส่แกนเพลาเข้าไปให้ตรงกับร่องฟันที่ถ้วย
3. หัวเกียร์
หัวเกียร์เองก็มีหลายแบบ หลายขนาด แต่หลักๆจะประกอบด้วยเฟืองสองชิ้นประกบกันตามมุมและองศาที่ออกแบบไว้รองรับด้วยลูกปืนหรือแบริ่งบน / ล่าง
เมื่อเฟืองขบกันก็จะเกิดการสึกหรอเช่นกันจารบีที่ใส่มาจากโรงงานอาจแห้งได้เมื่อใช้ไปนานๆหรือการตัดหญ้าที่จมน้ำ น้ำอาจเข้าไปได้เช่นกัน เราใช้จารบีทาเพื่อหล่อลื่นแบริ่งได้แต่เฟืองที่อยู่ภายในจะเข้าไม่ถึง หากมีกระบอกอัดจารบีก็สามารถใช้อัดเข้าไปได้เลยโดยการถอดน๊อตที่อยู่ด้านข้างหัวเกียร์ออก
แต่ถ้าหากๆไม่มีกระบอกอัดจารบีแนะนำให้ใช้ไซริ้งค์ฉีดยาแทนก็ได้ครับที่ผมใช้เป็นขนาด20cc เอาจารบีใส่กระบอกแล้วอัดเข้าในรูหัวเกียร์ได้ผลเช่นกันครับ
4. ใบมีดตัดหญ้าและประกับใบมีด
ประกับใบมีดต้องมีฟันล๊อคกับแกนเฟืองหัวเกียร์อย่างแข็งแรง ฟันไม่รูด ต้องไม่มีเศษเชือกหรือลวด สายไฟ มาพันที่แกนหัวเกียร์ อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ใบมีดตัดหญ้าให้อยู่ในสภาพสมดุลไม่บิดงอหรือแกว่ง ไม่เป็นรูฉีกขาด เหล่านี้จะทำให้เกิดอันตรายได้ เครื่องอาจแฉลบไปมาในขณะใช้งานหากพบควรแก้ไขหรือเปลี่ยนใบเสียใหม่ครับ ตัวสุดท้ายปลายสุดคือน๊อตยึดใบพัด ส่วนใหญ่เป็นน๊อตเกลียวซ้ายหรือหมุนทวนเข็มนาฬิกาเป็นการขันเข้า น๊อตต้องแน่นครับ เกลียวฟิตไม่หวาน เพราะอาจเกิดอันตรายอย่างมากหากใบมีดหลุดขณะใช้
จะเกิดอันตรายอย่างมากหากใบมีดหลุดขณะใช้งาน ปกติจะมีจานรองหัวน๊อตก่อนชิ้นนึงเพื่อป้องกันไม่ให้หัวน๊อตถูกับพื้นโดยตรงแต่ในบางครั้งหัวน๊อตไปถูเสียดสีกับพื้นบ่อยๆเข้ามุมหัวน๊อตจะสึกหรอจนไม่สามารถถอดออกได้ ถ้าพบแนะนำว่าเปลี่ยนน๊อตใหม่ครับ จากนั้นก่อนเใช้งานเราควรแต่งกายให้รัดกุม ใส่รองเท้าบู้ทยาวและกางเกงขายาว ใส่แว่นตากันเศษละออง ใส่หมวกป้องกัน อันตรายจากการกระเด็นของเศษวัสดุและใช้งานเครื่องตัดหญ้าด้วยความระมัดระวังครับ
อ้างอิงจาก : tngroup.co.th